Kob, New College Group (NCG), Manchester

จุดเริ่มต้นในการไปเรียน เริ่มจากตรงไหนคะ?

สวัสดีค่ะ ชื่อเล่นชื่อ กบ นะคะ กบเรียนจบปริญญาตรี สาขาสถาปัตยกรรม จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ พอเรียนจบแล้วกบก็เริ่มทำงานที่ออฟฟิศสถาปัตย์อยู่สามปีค่ะ ซึ่งกบตั้งใจจะศึกษาต่อปริญญาโท แต่ภาษาของกบยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควรค่ะ กบเลยตัดสินใจลงเรียนคอร์ส IELTS ที่ NCG Manchester ค่ะ ซึ่งกว่าจะได้เรียน IELTS ได้นั้น กบก็ต้องเริ่มจากเรียนคอร์ส General English ก่อน เพื่อปรับพื้นภาษาของเรา

ผลออกมาเป็นยังไงบ้างคะ? ภาษาเราพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยมั้ย?

สำหรับกบแล้ว กบว่าภาษากบพัฒนาไปอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นมากกว่าเดิมเลยค่ะ เพราะกบสามารถพูดและสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างมั่นใจ ซึ่งพอเรียนจบคอร์สภาษาแล้ว กบตัดสินใจไปสอบ IELTS เพื่อนำผลไปเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ เพื่อนๆเชื่อมั้ยคะ กบได้ IELTS 5.5 ถ้าหากกบไม่ได้เรียนภาษาก่อน กบว่าคงเป็นการยากมาก ที่กบจะได้คะแนนเท่านี้ กบเลยยืนใบสมัครเลยค่ะ แล้วไปเรียน Pre-sessional English เพื่อปรับพื้นฐานภาษาต่อกับทางมหาวิทยาลัยค่ะ

ชีวิตประจำวัน การเรียนในประเทศอังกฤษและการสอนในระดับมหาวิทยาลัยเป็นยังไงคะ?

4การเรียนการสอนค่อนข้างเครียดและจริงจังมากค่ะ ส่วนมากในห้องเรียนจะมีแต่นักเรียนชาวอังกฤษค่ะซึ่งมีประมาณ 40 คนเลย แต่ที่เป็นคนต่างชาติประมาณ 11 คนค่ะ ขึ้นอยู่กับวิชาที่เราเรียน เพราะวิชาหลักเรียนรวมกับคนอังกฤษเยอะๆ เน้นทำ workshop และไม่ค่อยมี lecture เรียนเป็น advance architecture มีวิธีการสอนแบบแตกต่างกันออกไปตามสไตล์ของอาจารย์แต่ล่ะท่าน การเรียนจะเน้นงานดีไซน์และแนวความคิดสร้างสรรค์ค่ะ ซึ่งนักเรียนสามารถนำเสนอแนวความคิดของตนเองได้ตามวิธีที่ตนเองถนัด ไม่ว่าจะเป็นการวาดโครงร่างในกระดาษ การใช้โปรแกรมเข้ามาช่วย หรือการนำเสนองานด้วย Microsoft Powerpoint นอกจากนั้นกบและเพื่อนในชั้นเรียนยังมีโอกาสได้ไปดูงานที่ลอนดอนอีกด้วยค่ะ

อะไรคือจุดที่เป็นแรงบันดาลใจที่อยากให้เราหางานทำคะ?

กบคิดว่า ในเมื่อตัวเราได้มีโอกาสมาศึกษาต่อถึงประเทศอังกฤษแล้ว กบก็อยากจะเปิดรับทุกโอกาสที่เข้ามา รวมถึงหาโอกาสให้กับตัวเอง ได้เปิดโลกและมุมมองใหม่ๆด้วยค่ะ ซึ่งพอเรียนจบ กบตั้งใจจะหางานทำ เพราะอยากมีประสบการณ์ในตลาดต่างประเทศซัก 2-3 ปีค่ะ ซึ่งมีวีซ่าอยู่ได้ 4 เดือนหลังจากเรียนจบเพื่อหางาน ตอนนั้นเริ่มเขวเหมือนกันนะคะ เพราะพอเราเรียนจบ เพื่อนเราก็เริ่มเดินทางไปเที่ยวกัน ใจเราก็อยากเที่ยว แต่ในเมื่อเราตั้งเป้าแล้วว่าเราอยากหางานทำ กบก็ต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ ทั้ง walk-in, job fair กบไปมาหมดค่ะ รวมถึงหางานตามเว็บสมัครงานด้วยค่ะ ซึ่งในช่วงที่สมัครงานนั้น กบก็ทำงานร้านอาหารไปด้วย เพราะกบถือว่ากบได้ใช้ภาษาได้ฝึกภาษาในทุกๆวัน

3ผลลัพธ์เป็นไงคะ? เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ไหม?

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยค่ะว่า หางานที่อังกฤษ ยากมากกกกกกกกกกกกกก 55555 กบได้รับการตอบรับเรียกเข้าสัมภาษณ์ประมาน 4-5 ที่ค่ะ จากหลายร้อยบริษัทที่กบสมัครไป อีเมล์กบเต็ม inbox เลยค่ะ เพราะกบสมัครเยอะมาก แล้วเค้าก็ตอบกลับมาเยอะมากเช่นกัน ซึ่งบางที่ก็ให้ความหวังเรา แต่บางที่ก็ดับความหวังเราค่ะ 55555

มาเรื่องการสัมภาษณ์งานดีกว่าค่ะ ตื่นเต้นไหมเอ่ยย

ตื่นเต้นมากค่ะ เพราะมันมีความกดดันเข้ามาด้วยเนื่องจากเราไม่มีประสบการณ์การทำงานที่ต่างประเทศมาก่อน แล้วคำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์ยังเป็นคำถามเชิงลึกอีกด้วยค่ะ คำถามตอนสัมภาษณ์คือเค้าถามเหมือนเรามีประสบการณ์มาแล้ว 9-10 ปี ซึ่งเราก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น ภาษาอังกฤษของเราก็มีปัญหาอีก เค้าทดสอบกบเยอะมากค่ะ บางเรื่องมันเกี่ยวกับกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งมันไม่เหมือนกับที่ประเทศไทย บางเรื่องเราก็ไม่รู้ ถึงบางเรื่องเรารู้ แต่เราก็ไม่สามารถตอบได้ นั่นกลายเป็นว่าทำให้เราดูโง่ไปกันใหญ่เลย 55555 พอไปสัมภาษณ์ เค้าก็ให้งานกลับมาทำค่ะ ซึ่งกบต้องดีไซน์บ้านสองหลัง แล้วบริษัทก็เรียกเรากลับไปพรีเซ้นท์งาน เมื่อดูผลงานเราจบแล้ว บริษัทเลยตัดสินใจเรียกเทรนงานกบ 3 วันค่ะ เพื่อดูว่ากบสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายให้หรือไม่ หรือสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้หรือไม่ จนกระทั่งเค้ารับเราเข้าทำงาน เพราะเค้าชอบผลงานของเราค่ะ :))

อยากบอกอะไรกับทุกๆคนไหมคะ?

กบว่าทุกอย่างเป็นไปได้ หากเราตั้งใจค่ะ และกบขอขอบคุณพี่ๆ IEC Abroad ค่ะ ที่ทำให้กบได้มาถึงจุดนี้ ขอบคุณที่คอยช่วยแนะนำแนวทางการเรียน พี่ๆดูแลดีมากค่ะ คุยเล่นได้ คุยให้คำปรึกษาได้ กบไม่เหงาเลยค่ะ เพราะไม่ว่ากบเจอปัญหาอะไร เวลากบทักมาหาพี่ๆ IEC Abroad ทุกคนก็ยินดีช่วยเหลือและดูแลเราตลอดตั้งแต่ต้นเลยค่ะ

2

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สนใจโปรโมชั่นนี้

โปรโมชั่น อื่นๆ